วันนี้ดัชนีดาวโจนส์ร่วงกว่า 200 จุด โดยได้รับแรงกดดันจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ที่ฟื้นตัวขึ้น
เมื่อเวลา 21:34 น. ตามเวลาประเทศไทย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์อยู่ที่ 37,446.19 จุด ลดลง 236.82 จุด หรือ 0.63%
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 10 ปี ดีดตัวขึ้นเหนือ 4% เนื่องจากนักลงทุนจับตาตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ รวมถึงตัวเลขเงินเฟ้อประจำสัปดาห์นี้ด้วย เพื่อค้นหาสัญญาณบ่งชี้ทิศทางอัตราดอกเบี้ยสหรัฐฯ
นอกจากนี้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ยังได้รับแรงหนุนจากตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรที่สูงกว่าคาด นี่จะเป็นปัจจัยที่ทำให้ธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) คงอัตราดอกเบี้ยไว้ในระดับสูงนานกว่าคาด
อัตราผลตอบแทนที่เพิ่มขึ้นของพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 10 ปี ซึ่งเป็นพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ที่ใช้อ้างอิงในการกำหนดราคาตราสารหนี้ทั่วโลก ซึ่งรวมถึงอัตราดอกเบี้ยจำนองของสหรัฐอเมริกา จะทำให้ผู้บริโภคมีเงินใช้จ่ายน้อยลง ในขณะเดียวกันค่าใช้จ่ายในการชำระสินเชื่อจำนองก็เพิ่มขึ้น และบริษัทจะต้องเผชิญกับต้นทุนที่สูงขึ้นจากการชำระหนี้ ทำให้บริษัทเหล่านี้ลดการลงทุนและลดการจ่ายเงินปันผลให้กับนักลงทุน
กระทรวงแรงงานสหรัฐฯ จะเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งใช้วัดอัตราเงินเฟ้อในการใช้จ่ายของผู้บริโภค สำหรับเดือนธันวาคมวันพฤหัสบดีนี้
การสำรวจของนักวิเคราะห์คาดว่า CPI ทั่วไป ซึ่งรวมถึงหมวดอาหารและพลังงาน จะเพิ่มขึ้น 3.2% ในเดือนธันวาคมปีต่อปีจาก 3.1% ในเดือนพฤศจิกายน
ในแต่ละเดือน คาดว่าดัชนี CPI ทั่วไปจะเพิ่มขึ้น 0.2% ในเดือนธันวาคม จาก 0.1% ในเดือนพฤศจิกายน
ส่วนดัชนี CPI หลัก (Core CPI) ซึ่งไม่รวมหมวดอาหารและพลังงาน คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 3.8% ในเดือนธันวาคมปีต่อปีจาก 4.0% ในเดือนพฤศจิกายน
ในแต่ละเดือน คาดว่าดัชนี CPI หลักจะเพิ่มขึ้น 0.2% ในเดือนธันวาคม จาก 0.3% ในเดือนพฤศจิกายน
คำแนะนำการอ่านบทความนี้ : บางบทความในเว็บไซต์ ใช้ระบบแปลภาษาอัตโนมัติ คำศัพท์เฉพาะบางคำอาจจะทำให้ไม่เข้าใจ สามารถเปลี่ยนภาษาเว็บไซต์เป็นภาษาอังกฤษ หรือปรับเปลี่ยนภาษาในการใช้งานเว็บไซต์ได้ตามที่ถนัด บทความของเรารองรับการใช้งานได้หลากหลายภาษา หากใช้ระบบแปลภาษาที่เว็บไซต์ยังไม่เข้าใจ สามารถศึกษาเพิ่มเติมโดยคลิกลิ้งค์ที่มาของบทความนี้ตามลิ้งค์ที่อยู่ด้านล่างนี้
Source link