ดัชนีดาวโจนส์ยังคงลดลงอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดร่วงกว่า 200 จุด หลังสหรัฐฯ เผยตัวเลขเงินเฟ้อสูงกว่าคาด และตัวเลขการว่างงานต่ำกว่าคาด ซึ่งจะเป็นปัจจัยหนุนให้ธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) คงอัตราดอกเบี้ยสูงไว้นานกว่าคาด
นอกจากนี้ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากการฟื้นตัวของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ หลังจากมีการเปิดเผยตัวเลขเงินเฟ้อแล้ว
เมื่อเวลา 23:15 น. ตามเวลาประเทศไทย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์อยู่ที่ 37,446.44 จุด ลดลง 249.29 จุด หรือ 0.66%
อย่างไรก็ตาม หุ้นที่เกี่ยวข้องกับตลาดสกุลเงินดิจิทัลดีดตัวขึ้นเมื่อเทียบกับตลาด หลังจากที่สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์สหรัฐ (SEC) อนุมัติการจัดตั้ง Spot Bitcoin ETF
กระทรวงแรงงานเผยว่า ยอดยื่นขอสวัสดิการว่างงานเบื้องต้นลดลง 1,000 เหลือ 202,000 ในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบสามเดือนและต่ำกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ 210,000 จุด
นอกจากนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐฯ ยังเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งวัดอัตราเงินเฟ้อในการใช้จ่ายของผู้บริโภค วันนี้เดือนธันวาคม
ดัชนี CPI ทั่วไป ซึ่งรวมถึงหมวดอาหารและพลังงาน เพิ่มขึ้น 3.4% ในเดือนธันวาคมเมื่อเทียบเป็นรายปี สูงกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ 3.2% จาก 3.1% ในเดือนพฤศจิกายน
เมื่อเทียบเป็นรายเดือน CPI ทั่วไปเพิ่มขึ้น 0.3% ในเดือนธันวาคม ซึ่งสูงกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ 0.2% จาก 0.1% ในเดือนพฤศจิกายน
Core CPI ซึ่งไม่รวมอาหารและพลังงาน เพิ่มขึ้น 3.9% ในเดือนธันวาคมเมื่อเทียบเป็นรายปี สูงกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ 3.8% จาก 4.0% ในเดือนพฤศจิกายน
เมื่อเทียบเป็นรายเดือน CPI หลักเพิ่มขึ้น 0.3% ในเดือนธันวาคม ซึ่งสอดคล้องกับการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ จาก 0.3% ในเดือนพฤศจิกายน
นักลงทุนจะจับตาดูดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) และการประกาศผลประกอบการของธนาคารขนาดใหญ่หลายแห่งในวันพรุ่งนี้
คำแนะนำการอ่านบทความนี้ : บางบทความในเว็บไซต์ ใช้ระบบแปลภาษาอัตโนมัติ คำศัพท์เฉพาะบางคำอาจจะทำให้ไม่เข้าใจ สามารถเปลี่ยนภาษาเว็บไซต์เป็นภาษาอังกฤษ หรือปรับเปลี่ยนภาษาในการใช้งานเว็บไซต์ได้ตามที่ถนัด บทความของเรารองรับการใช้งานได้หลากหลายภาษา หากใช้ระบบแปลภาษาที่เว็บไซต์ยังไม่เข้าใจ สามารถศึกษาเพิ่มเติมโดยคลิกลิ้งค์ที่มาของบทความนี้ตามลิ้งค์ที่อยู่ด้านล่างนี้
Source link