ความตึงเครียดกำลังเพิ่มสูงขึ้นที่พรมแดนระหว่างยูเครนและเบลารุสซึ่งเป็นพันธมิตรกับมอสโก ขณะที่เจ้าหน้าที่ในเคียฟเตือนถึงการรุกของรัสเซียในช่วงฤดูใบไม้ผลิ ท่ามกลางการโจมตีทางทหารที่เพิ่มขึ้นจากเครมลิน
ในการเข้าถึงที่หาได้ยากนับตั้งแต่รัสเซียรุกรานยูเครนเมื่อปีที่แล้ว ทีมงานของ CNN ได้ไปเยือนชายแดนทางตะวันตกเฉียงใต้ของเบลารุสใกล้กับทางตะวันตกเฉียงเหนือของยูเครน พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ชายแดนของรัฐ
ยูเครนแบ่งปันพรมแดนยาว 1,000 กิโลเมตรกับเบลารุส ซึ่งเป็นประเทศที่มีบทบาทสำคัญในการช่วยเหลือการโจมตีของรัสเซีย
Frederik Pleitgen จาก CNN และทีมของเขาอยู่ห่างจากฝั่งยูเครน 100 เมตร ซึ่งพวกเขาเห็นการเสริมแนวป้องกันบริเวณชายแดนของรัฐบาลเบลารุสด้วยลวดหนามในการทัวร์ชมสื่อมวลชนที่มีการจัดการอย่างระมัดระวังและควบคุมอย่างเข้มงวด
จากข้อมูลของทีมซีเอ็นเอ็นภาคพื้นดิน พรมแดนด้านยูเครนถูกกั้นอย่างแน่นหนาด้วยรั้วลวดหนามหลายชั้นและเนินดินเพื่อป้องกันไม่ให้ใครผ่านไปมา
เจ้าหน้าที่เบลารุสบอกกับซีเอ็นเอ็นว่าการข้ามพรมแดนจากฝั่งของพวกเขาในเมืองเล็ก ๆ ของไดวินยังคงใช้งานได้ แต่ฝ่ายยูเครนได้ปิดการข้ามแดน
เคียฟได้ปิดจุดผ่านแดนทั้งหมดไปยังเบลารุส เว้นแต่จะอนุญาตให้ผู้ลี้ภัยชาวยูเครนเข้าประเทศที่ต้องการกลับประเทศของตนเป็นครั้งคราว เนื่องจากความกังวลว่าเบลารุสอาจถูกรัสเซียรุกรานต่อไป
ทีมงานของซีเอ็นเอ็นสามารถเห็นธงชาติยูเครนที่ด้านข้ามพรมแดนของยูเครน และธงสีแดงและสีขาวซึ่งเกี่ยวข้องกับฝ่ายค้านของเบลารุส ซึ่งเป็นความเคลื่อนไหวที่ทางการเบลารุสเรียกว่า “การยั่วยุ”
รัสเซียใช้ดินแดนเบลารุสเป็นหนึ่งในฐานยิงสำหรับการรุกรานยูเครนในปี 2565 การซ้อมรบร่วมทางทหารในช่วงปีที่แล้วระหว่างเบลารุสและรัสเซียมีส่วนทำให้เกิดความกังวลว่ากองทหารเบลารุสอาจเข้าร่วมกับกองกำลังของรัสเซียในยูเครน
อ่านเพิ่มเติม ที่นี่.
คำแนะนำการอ่านบทความนี้ : บางบทความในเว็บไซต์ ใช้ระบบแปลภาษาอัตโนมัติ คำศัพท์เฉพาะบางคำอาจจะทำให้ไม่เข้าใจ สามารถเปลี่ยนภาษาเว็บไซต์เป็นภาษาอังกฤษ หรือปรับเปลี่ยนภาษาในการใช้งานเว็บไซต์ได้ตามที่ถนัด บทความของเรารองรับการใช้งานได้หลากหลายภาษา หากใช้ระบบแปลภาษาที่เว็บไซต์ยังไม่เข้าใจ สามารถศึกษาเพิ่มเติมโดยคลิกลิ้งค์ที่มาของบทความนี้ตามลิ้งค์ที่อยู่ด้านล่างนี้
ที่มาบทความนี้