![การเคลื่อนไหวครั้งต่อไปสำหรับหุ้นเติบโตและมูลค่าในขณะที่รัสเซลล์ปรับสมดุลใหม่](https://image.cnbcfm.com/api/v1/image/107432534-1719261195ETF-SEG2-062424.jpg?v=1719261194&w=750&h=422&vtcrop=y)
การเคลื่อนไหวเชิงบวกอาจเกิดขึ้นข้างหน้าทั้งมูลค่าและการเติบโตในช่วงครึ่งหลังของปี
Todd Rosenbluth จาก VettaFi คิดว่าหุ้นที่มีมูลค่าซึ่งเป็นตลาดที่ล้าหลัง อาจได้รับการยกระดับจากเหตุการณ์ Wall Street ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดงานหนึ่งของปี: การปรับสมดุลประจำปีของ FTSE Russell
“มันคุ้มค่าที่จะให้ความสนใจกับมูลค่า” หัวหน้าฝ่ายวิจัยของบริษัทกล่าวกับ “ETF Edge” ของ CNBC ในสัปดาห์นี้ “มันรู้สึกเหมือน … [for a] เป็นเวลานานแล้วที่การเติบโตนั้นมีประสิทธิภาพเหนือกว่ามูลค่า”
เมื่อวันศุกร์ ดัชนีรัสเซลได้รับการปรับปรุงใหม่ประจำปีเพื่อสะท้อนถึงการเปลี่ยนแปลงในตลาดในขณะที่บริษัทต่างๆ เติบโตและเปลี่ยนแปลงไป ที่ กองทุน ETF iShares Russell 1000 Growth เพิ่มขึ้น 20% ในปีนี้ ในขณะที่ กองทุน ETF iShares Russell 1000 Value เพิ่มขึ้นเกือบ 6%
“เราคิดว่ามีพื้นที่สำหรับการเติบโตและมูลค่าภายในพอร์ตโฟลิโอที่กว้างขึ้น มีเพียงผู้คนที่เบ้ไปทางการเติบโตในช่วงครึ่งหลังของปี” เขากล่าวเสริม “มีช่วงหนึ่งที่ลูกตุ้มแกว่งกลับมาเพื่อคุณค่า”
Fiona Bassett ซีอีโอ FTSE Russell กล่าวใน “ETF Edge” ว่าดัชนีถูกสร้างขึ้นเพื่อสะท้อนถึงธรรมชาติของตลาด
“ข้อดีอย่างหนึ่งของแฟรนไชส์รัสเซลโดยทั่วไปก็คือความสามารถของเราในการนำเสนอช่องทางที่แตกต่างออกไป” เธอกล่าว “ดังนั้น สำหรับคนเหล่านั้นที่ต้องการเน้นย้ำถึงคุณค่าหรือการเติบโต เราก็มีดัชนีที่พร้อมจะทำเช่นนั้น”
ณ วันที่ 31 พฤษภาคม FactSet รายงานว่าการถือครองสามอันดับแรกของ Russell 1000 Growth ETF คือ ไมโครซอฟต์– แอปเปิล และ เอ็นวิเดียในขณะเดียวกัน การถือครองสูงสุดของกองทุน Russell 1000 Value ETF ได้แก่ เบิร์กเชียร์ แฮทธาเวย์– เจพีมอร์แกน เชส และ เอ็กซอนโมบิล–
คำแนะนำการอ่านบทความนี้ : บางบทความในเว็บไซต์ ใช้ระบบแปลภาษาอัตโนมัติ คำศัพท์เฉพาะบางคำอาจจะทำให้ไม่เข้าใจ สามารถเปลี่ยนภาษาเว็บไซต์เป็นภาษาอังกฤษ หรือปรับเปลี่ยนภาษาในการใช้งานเว็บไซต์ได้ตามที่ถนัด บทความของเรารองรับการใช้งานได้หลากหลายภาษา หากใช้ระบบแปลภาษาที่เว็บไซต์ยังไม่เข้าใจ สามารถศึกษาเพิ่มเติมโดยคลิกลิ้งค์ที่มาของบทความนี้ตามลิ้งค์ที่อยู่ด้านล่างนี้
ที่มาบทความนี้