จุรินทร์ อนุมัติ “แผนช่วยชาวนา” โครงการประกันรายได้ โครงการไร่ละ 1,000 บาท และเก็บยุ้งฉางกับชดเชยดอกเบี้ย พร้อมเสนอ นบข. ขณะการแก้ปัญหาปุ๋ย เร่งนำเข้าปุ๋ยจากซาอุ 3 แสนตัน
วันที่ 11 สิงหาคม 2565 นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะอนุกรรมการนโยบายและบริหารข้าวแห่งชาติด้านการตลาด ครั้งที่ 1/ 2565 ร่วมด้วยกับสมาคมชาวนาและเกษตรกรไทย สมาคมผู้ประกอบการข้าวถุงไทย สมาคมโรงสีข้าวไทย สมาคมส่งเสริมชาวนาไทย และสมาคมชาวนาข้าวไทย พร้อมหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้อง ว่า ที่ประชุมเห็นชอบจะเดินมาตรการโครงการประกันรายได้ปี 4 โดยจะเสนอเข้าสู่ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ (นบข.) ซึ่งมีนายกรัฐมนตรีเป็นประธานพิจารณาต่อไป
สำหรับมาตรการที่มีการหารือและจะเสนอเข้า นบข. พิจารณา ได้แก่ 1.โครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวปีที่ 4 ซึ่งจะมีเกษตรกรได้รับประโยชน์ 4.68 ล้านครัวเรือน ใช้เงินงบประมาณรวมกันทั้งสิ้น 86,740.31 ล้านบาท
2.โครงมาตรการคู่ขนาน ประกอบด้วยโครงการย่อย 3 โครงการ คือ 3.1โครงการส่งเสริมให้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวชะลอการขายข้าวในช่วงระยะเวลาที่ข้าวประดังกันออกสู่ตลาดจำนวนมาก เพื่อป้องกันข้าวเปลือกราคาตก โดยจะมีเงินช่วยเหลือเกษตรกรไร่ละ 1,500 บาทต่อรายต่อข้าว 1 ตัน
3.2 โครงการช่วยเหลือดอกเบี้ยร้อยละ3ให้กับสหกรณ์ที่ชะลอการขายข้าวหรือเก็บสต๊อกข้าวไว้เพื่อไม่ให้ข้าวที่ออกมากมาจนล้นตลาดจนทำให้ข้าวราคาตก 3.3 โครงการช่วยเหลือดอกเบี้ยร้อยละ 3 ให้กับโรงสีที่เก็บสต๊อกข้าวไว้เช่นเดียวกันทั้ง 3 โครงการใช้งบประมาณรวมกันทั้งสิ้น 8,022.69 ล้านบาท
3.โครงการไร่ละ 1,000 บาท เป็นการสนับสนุนค่าบริหารจัดการและพัฒนาคุณภาพผลผลิตให้กับเกษตรกรผู้ปลูกข้าวไม่เกินครอบครัวละ 20 ไร่ เป็นเงินรวมกันทั้งสิ้น 55,364.75 ล้านบาท
รวม 3 โครงการ เป็นเงินทั้งสิ้น 150,127.75 ล้านบาท
ด้านนายปราโมทย์ เจริญศิลป์ นายกสมาคมชาวนาและเกษตรกรไทย กล่าวว่า นโยบายประกันรายได้สร้างความพอใจให้กับชาวนามาก ทำให้ชาวนามีทางเลือกมากขึ้น
“พูดจากความจริงใจ จากชาวนาและตัวแทนเกษตรกร ท่านจุรินทร์ได้ต่อนโยบายนี้ขึ้นมาอีก เป็นปีที่ 4 ในความรู้สึกของชาวนาโครงการนี้ถือว่าดีมากๆ เพราะผมในฐานะนายกสมาคมก็ขอขอบคุณอย่างมาก”
เร่งนำเข้าปุ๋ยจากซาอุ 3 แสนตัน
นายจุรินทร์ กล่าวว่า การดูแลราคาปุ๋ย ราคาสินค้า ยืนยันว่าปุ๋ยมีเพียงพอไม่ขาดแคลน ในฤดูกาลเพาะปลูกปีนี้ และเตรียมเจรจากับซาอุดีอาระเบียอย่างต่อเนื่อง ในช่วงที่จะเดินทางไปเยือนซาอุดีอาระเบีย ระหว่างวันที่ 27-30 สิงหาคมนี้ ซึ่งซาอุฯ ตกลงขายปุ๋ยให้ไทยแล้ว 3 แสนตัน จากที่ไทยเจรจาขอซื้อปุ๋ยไป 8 แสนตัน
และสำหรับการรับมือราคาปุ๋ยที่อาจจะมีราคาสูงขึ้นจากต้นทุนราคาแก๊สธรรมชาติ ที่อาจจะเพิ่มสูงขึ้นจากผลกระทบวิกฤติการณ์รัสเซีย -ยูเครนนั้น ทางกระทรวงพาณิชย์จะดูแลไม่ให้มีการค้ากำไรเกินควร และ กระทรวงเกษตรฯ จะดูแลในเรื่อง ราคา และปริมาณนำเข้าที่เหมาะสม ซึ่งหากมีผลกระทบ ราคาที่สูงขึ้นมาก ทางสำนักงบประมาณ กระทรวงการคลัง จะพิจารณา มาตรการชดเชยราคาที่เหมาะสม เพื่อไม่ให้กระทบต่อต้นทุน วัตถุดิบสินค้าเกษตร
และสำหรับเรื่องราคาสินค้ากระทรวงพาณิชย์จะยังเข้าไปดูอย่างใกล้ชิด มีการจัดเจ้าหน้าที่สำรวจราคาทุกวัน วันละ 500 กว่าคน มีรายงานเข้ามาที่ส่วนกลางตลอดว่าตัวไหนเพิ่มขึ้นตัวไหนลดลง มีสินค้าหลายตัวที่ราคาปรับลดลง เช่นผักบางตัวปรับลดลง บางตัวปรับขึ้นตามฤดูกาลตามฝนที่ตก ปลาปรับลดลงมาหลายตัว ปลาดุกปรับลดลง ปลาทับทิมปรับลดลงและสินค้าบางตัว เช่น เครื่องใช้ไฟฟ้าปรับลดลงมาหลายตัว รวมทั้งน้ำมันพืช น้ำมันปาล์มขวด ตอนนี้ปรับลดลงมาเหลือ 52-54 บาท/ขวด จาก 70 บาท/ขวด
- พายุโซนร้อนมู่หลาน ดันแม่น้ำโขงสูงขึ้น 13 -18 ส.ค. กอนช. เตือนเฝ้าระวัง
- โอกาสส่งออกไทย หลังจีนแบนสินค้าไต้หวัน 2,000 รายการ
อ่านข่าวต้นฉบับ: เดินหน้าโครงการประกันรายได้ปี 4 ของบประมาณอีก 1.5 แสนล้าน
คำแนะนำการอ่านบทความนี้ : บางบทความในเว็บไซต์ ใช้ระบบแปลภาษาอัตโนมัติ คำศัพท์เฉพาะบางคำอาจจะทำให้ไม่เข้าใจ สามารถเปลี่ยนภาษาเว็บไซต์เป็นภาษาอังกฤษ หรือปรับเปลี่ยนภาษาในการใช้งานเว็บไซต์ได้ตามที่ถนัด บทความของเรารองรับการใช้งานได้หลากหลายภาษา หากใช้ระบบแปลภาษาที่เว็บไซต์ยังไม่เข้าใจ สามารถศึกษาเพิ่มเติมโดยคลิกลิ้งค์ที่มาของบทความนี้ตามลิ้งค์ที่อยู่ด้านล่างนี้
Source link : ต้นฉบับเนื้อหาข่าวนี้