ห้างเพชรทองออโรร่า เตรียมขายหุ้นไอพีโอไม่เกิน 334 ล้านหุ้น เข้าจดทะเบียน SET หมวดแฟชั่น
วันที่ 16 กรกฎาคม 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานข้อมูลไฟลิ่งหุ้นไอพีโอใหม่ ของสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์(ก.ล.ต.) พบว่า บริษัท ออโรร่า ดีไซน์ จำกัด(AURA) ผู้ประกอบธุรกิจค้าปลีกทองรูปพรรณ เครื่องประดับเพชรและอัญมณี และธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องอื่นที่มีบริการแบบครบวงจร (One Stop Service) ซึ่งรวมถึงการบริการขาย รับซื้อคืน ขายฝากสินค้า และบริการหลังการขาย
ออโรร่า ขายหุ้นไอพีโอ 334 ล้านหุ้น
เตรียมเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก จำนวนรวมไม่เกิน 334 ล้านหุ้น คิดเป็นไม่เกิน 25% ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและเรียกชำระแล้วทั้งหมด ภายหลังการเสนอขายในครั้งนี้ มีมูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท มีมูลค่าตามราคาบัญชี(Book Value) อยู่ที่ 2.64 บาทต่อหุ้น (ณ วันที่ 31 มีนาคม 2565) โดยมีแผนเข้าจดทะเบียนในตลาด SET หมวดธุรกิจแฟชั่น
โดยมีนโยบายจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นในอัตราไม่น้อยกว่า 50% ของกำไรสุทธิจากงบการเงินเฉพาะกิจการของบริษัทภายหลังจากหักภาษีเงินได้นิติบุคคล และการจัดสรรทุนสำรองต่าง ๆ ทุกประเภทตามที่ได้กำหนดไว้ในกฎหมาย
ทั้งนี้ AURA จะแบ่งกลุ่มธุรกิจหลัก 2 กลุ่มคือ 1.ธุรกิจค้าปลีกทองรูปพรรณ เครื่องประดับเพชร และอัญมณี และของขวัญที่ทำมาจากทองคำและเพชรของขวัญที่ทำมาจากทองคำเป็นหลัก โดยมีผลิตภัณฑ์หลัก 3 ประเภทดังนี้
- ผลิตภัณฑ์โมเดิร์น โกลด์ (Modern Gold)
ผลิตภัณฑ์ทองรูปพรรณที่มีส่วนประกอบของทองคำบริสุทธิ์ 96.5% ในประเภทสินค้าที่หลากหลาย ได้แก่ สร้อยคอ แหวน สร้อยข้อมือ ต่างหู ทองแผ่น เป็นต้น
- ผลิตภัณฑ์ดีไซน์ โกลด์ (Design Gold)
ผลิตภัณฑ์จากทองอื่น ๆ (ไม่รวมผลิตภัณฑ์ Modern Gold ที่มีส่วนประกอบของทองคำบริสุทธิ์ 96.5%) โดยมีสินค้า 4 กลุ่ม ได้แก่ 1.พระเครื่องเลี่ยมทอง 2.สินค้าเสริมสิริมงคล เช่น สร้อยมือปีเซี่ยะ แผ่นทองมงคล จี้ราศี เป็นต้น 3.เครื่องประดับ เช่น สร้อยคอ แหวน สร้อยข้อมือ ต่างหู เป็นต้น และ 4.สินค้ากลุ่มของขวัญ เช่น กรอบรูปงานหัตถศิลป์ทองคำ เป็นต้น
- ผลิตภัณฑ์เครื่องประดับเพชร (Diamond)
ผลิตภัณฑ์เครื่องประดับเพชรแท้ เช่น แหวนเพชร สร้อยคอเพชร ต่างหูเพชร สร้อยข้อมือเพชร จี้เพชร เป็นต้น
2.ธุรกิจขายฝากทองคำและเครื่องประดับที่มีทองคำและเพชรเป็นส่วนประกอบ โดยลูกค้าสามารถไถ่ถอนทรัพย์ที่นำมาขายฝากได้ภายในระยะเวลาที่ตกลงกัน
ธุรกิจตระกูลศรีรุ่งธรรม
โดยโครงสร้างการถือหุ้นของบริษัท ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2565 และภายหลังการเสนอขายหุ้นสามัญต่อประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก สรุปได้ดังนี้
1.บริษัท ธัม เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด ถือหุ้นภายหลังเสนอขายไอพีโอ 32.33% จากเดิมถือหุ้น 43% 2.นางวิมลศรี ศรีรุ่งธรรม ถือหุ้น 4.23% จากเดิมถือหุ้น 5.65% 3.นายประสิทธ์ ศรีรุ่งธรรม ถือหุ้น 4.21% จากเดิมถือหุ้น 5.61% 4.นายอนิวรรต ศรีรุ่งธรรม ถือหุ้น 5.33% จากเดิมถือหุ้น 7.11%
5.นายอนิรุทธิ์ ศรีรุ่งธรรม ถือหุ้น 5.33% จากเดิมถือหุ้น 7.11% 6.นายอนิพัทย์ ศรีรุ่งธรรม ถือหุ้น 5.33% จากเดิมถือหุ้น 7.11% 7.นางสาวนิชนันท์ ศรีรุ่งธรรม ถือหุ้น 5.33% จากเดิมถือหุ้น 7.11% 8.ผู้ถือหุ้นอื่น ๆ ประกอบด้วยบุคคลธรรมดา จำนวน 23 ราย ถือหุ้นระหว่าง 0.09-2.20% ถือหุ้น 12.97% จากเดิมถือหุ้นรวม 17.30% และ 9.ประชาชานทั่วไป ถือหุ้น 25.04%
ปี’64 มีกำไร 591 ล้าน
ในปี 2562, 2563 และ 2564 บริษัทมีกำไรสุทธิ 515.12 ล้านบาท 734.14 ล้านบาท และ 591.03 ล้านบาท ตามลำดับ หรือคิดเป็นอัตรากำไรสุทธิ 2.97%, 3.77% และ 2.65% โดยในปี 2563 มีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 219.02 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 42.52%
โดยมีสาเหตุหลักจากการเพิ่มขึ้นของกำไรขั้นต้นจากการขายผลิตภัณฑ์ Modern Gold และการลดลงของค่าใช้จ่ายในการขาย เนื่องจากการลดลงของเงินเดือนและค่าล่วงเวลาของพนักงานและการลดลงของค่าเช่าและค่าบริการจากการปิดดำเนินการ และลดระยะเวลาการเปิดดำเนินการของห้างสรรพสินค้า ตามมาตรการของภาครัฐในการควบคุมการแพร่ระบาดโควิด
ส่วนปี 2564 มีกำไรสุทธิลดลง 143.11 ล้านบาท หรือลดลง 19.49% โดยมีสาเหตุหลักจากการลดลงของกำไรขั้นต้นจากการขายผลิตภัณฑ์ Modern Gold และการเพิ่มขึ้นของค่าใช้จ่ายในการขาย เนื่องจากการเพิ่มขึ้นของค่าใช้จ่ายการตลาดและส่งเสริมการขายและการเพิ่มขึ้นของค่าตัดจำหน่ายของสัญญาเช่าและบริการของสาขา
ไตรมาส 1/65 กำไรพุ่ง
สำหรับงวดไตรมาส 1 ปี 2564 และปี 2565 บริษัทมีกำไรสุทธิ 96.53 ล้านบาท และ 239.75 ล้านบาท หรือคิดเป็นอัตรากำไรสุทธิ 1.49% และ 3.04% โดยไตรมาส 1/65 มีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 143.22 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 148.36% โดยมีสาเหตุหลักจากการเพิ่มขึ้นของกำไรขั้นต้นจากการขายผลิตภัณฑ์ Modern Gold
โดยสินทรัพย์รวมสิ้นสุด 31 มีนาคม 2565 รวมจำนวน 9,463.97 ล้านบาท โดยสินทรัพย์หลักของบริษัท ประกอบด้วย 1.ลูกหนี้การค้าและลูกหนี้อื่น 2.สินค้าคงเหลือ และ 3.สินทรัพย์สิทธิการใช้
มีหนี้สินรวม 6,822.49 ล้านบาท โดยหนี้สินหลัก ประกอบด้วย 1.เงินกู้ยืมระยะสั้นจากสถาบันการเงิน 2.เจ้าหนี้การค้าและเจ้าหนี้อื่น 3.เงินกู้ยืมระยะยาวจากสถาบันการเงิน 4.หนี้สินระยะยาวภายใต้สัญญาเช่าการเงิน และ 5.เงินกู้ยืมระยะยาวจากบุคคลหรือกิจการที่เกี่ยวข้องกัน
อ่านข่าวต้นฉบับ: ห้างเพชรทองออโรร่า เตรียมขายหุ้นไอพีโอไม่เกิน 334 ล้านหุ้น
คำแนะนำการอ่านบทความนี้ : บางบทความในเว็บไซต์ ใช้ระบบแปลภาษาอัตโนมัติ คำศัพท์เฉพาะบางคำอาจจะทำให้ไม่เข้าใจ สามารถเปลี่ยนภาษาเว็บไซต์เป็นภาษาอังกฤษ หรือปรับเปลี่ยนภาษาในการใช้งานเว็บไซต์ได้ตามที่ถนัด บทความของเรารองรับการใช้งานได้หลากหลายภาษา หากใช้ระบบแปลภาษาที่เว็บไซต์ยังไม่เข้าใจ สามารถศึกษาเพิ่มเติมโดยคลิกลิ้งค์ที่มาของบทความนี้ตามลิ้งค์ที่อยู่ด้านล่างนี้
Source link : ต้นฉบับเนื้อหาข่าวนี้