ตลาดหลักทรัพย์ลอนดอนปิดลบในวันศุกร์ (20 ต.ค.) เป็นวันที่สามติดต่อกัน โดยหุ้นการเงินและเหมืองแร่ฉุดตลาดลง ท่ามกลางการซื้อขายที่ผันผวนในสัปดาห์นี้ ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับความขัดแย้งที่เพิ่มขึ้นในตะวันออกกลาง และความกังวลเกี่ยวกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพิ่มเติม
ดัชนีหุ้นลอนดอน FTSE 100 ปิดที่ 7,402.14 จุด ลดลง 97.39 จุด หรือ -1.30%
ตลาดหลักทรัพย์ลอนดอนประกาศร่วงลงรายสัปดาห์มากที่สุดในรอบสองเดือน โดยหุ้นทางการเงินร่วงลงมากที่สุด หุ้น HSBC และพรูเด็นเชียลร่วงลง 3.9% และ 3.4% ตามลำดับ
หุ้นโลหะอุตสาหกรรมร่วงลง 3.1% หลังจากราคาทองแดงได้รับผลกระทบจากการแข็งค่าของเงินดอลลาร์และเศรษฐกิจโลกที่ซบเซา และจีนซึ่งเป็นผู้ใช้ทองแดงรายใหญ่ยังไม่ได้ออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม
ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ ที่แตะ 5% ในวันพฤหัสบดี หลังจากที่นายเจอโรม พาวเวลล์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ระบุว่าเฟดอาจขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกครั้ง หากกิจกรรมทางเศรษฐกิจแข็งแกร่งเกินคาด
หุ้นอสังหาริมทรัพย์ที่อ่อนไหวต่ออัตราดอกเบี้ยลดลง 0.3% สู่ระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนกันยายน 2022
ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากการเปิดเผยข้อมูลยอดค้าปลีกของสหราชอาณาจักรที่ลดลงเกินคาดในเดือนกันยายน และข้อมูลอีกชิ้นบ่งชี้ว่าความเชื่อมั่นผู้บริโภคของอังกฤษลดลงในเดือนตุลาคมหลังจากเพิ่มขึ้นสู่ระดับสูงสุดนับตั้งแต่ต้นปี 2022 ในเดือนกันยายน
คำแนะนำการอ่านบทความนี้ : บางบทความในเว็บไซต์ ใช้ระบบแปลภาษาอัตโนมัติ คำศัพท์เฉพาะบางคำอาจจะทำให้ไม่เข้าใจ สามารถเปลี่ยนภาษาเว็บไซต์เป็นภาษาอังกฤษ หรือปรับเปลี่ยนภาษาในการใช้งานเว็บไซต์ได้ตามที่ถนัด บทความของเรารองรับการใช้งานได้หลากหลายภาษา หากใช้ระบบแปลภาษาที่เว็บไซต์ยังไม่เข้าใจ สามารถศึกษาเพิ่มเติมโดยคลิกลิ้งค์ที่มาของบทความนี้ตามลิ้งค์ที่อยู่ด้านล่างนี้
Source link