ตลาดหุ้นสหรัฐฯ เริ่มต้นปีด้วยสภาวะความกลัวโดยมีความกลัวขั้นสุด ซึ่งตรงกันข้ามกับปีที่แล้วที่ตลาดมีความสมดุลระหว่าง 'ความโลภ' และ 'ความโลภสุดขีด' นั่นคือข้อสรุปที่เราได้จากดัชนีความเชื่อมั่นทางธุรกิจของ CNN
แรงกดดันสำคัญต่อตลาดในเดือนธันวาคมคือการกลับตัวของวาทศิลป์ โดยคำปราศรัยของพาวเวลล์และความคิดเห็นอย่างเป็นทางการของ FOMC เปลี่ยนไปใช้การลดอัตราดอกเบี้ยน้อยลง ส่งผลให้ความน่าจะเป็นของการปรับลดราคา ณ สิ้นเดือนมกราคมจึงลดลงเหลือประมาณ 10% ขณะนี้ตลาดกำลังกำหนดราคาโดยปรับลดอัตราดอกเบี้ย 50 จุดเหลือช่วง 3.75-4.00% ซึ่งเป็นสถานการณ์กลางสำหรับสิ้นปี
น้ำเสียงที่ดุร้ายของ Fed เป็นสาเหตุหลักที่ทำให้ต่ำกว่าจุดสูงสุดในเดือนธันวาคมถึง 3.5% แม้ว่าดัชนีความกลัวและความโลภในระดับต่ำจะดึงดูดผู้ซื้อในปีที่แล้ว แต่เรายังคงระมัดระวังเกี่ยวกับตลาด
การเปลี่ยนแปลงของตลาดหุ้นในช่วงสองสามวันแรกมักถูกมองว่าเป็นการสปอยล์ตลอดทั้งปี (กฎห้าวันแรกอันโด่งดัง) ด้วยเหตุนี้ การเริ่มต้นปีจึงมีอารมณ์ความรู้สึกสูง ซึ่งสามารถมีอิทธิพลต่อพฤติกรรมของเทรดเดอร์ได้อย่างมาก
ภาพทางเทคนิคระยะสั้นยังเป็นที่น่ากังวลเช่นกัน เนื่องจาก S&P 500 ล้มเหลวในความพยายามที่จะทะลุเหนือค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 50 วันในช่วงการซื้อขายครั้งแรกของวันที่ 2 ความล้มเหลวในการทะลุผ่านตัวมันเอง และความตกลงสู่ระดับต่ำสุดในเดือนธันวาคม เกือบ 6% จากระดับสูงสุดในอดีต
ต้นปีนี้เราน่าจะได้เห็นการทดสอบเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 200 วันเร็วๆ นี้ ซึ่งเป็นตัวกำหนดแนวโน้มระยะยาว สำหรับ S&P 500 ขณะนี้อยู่ที่ 5575 ในเดือนสิงหาคม การลดลงของตลาดได้หยุดลงเมื่อเข้าใกล้ และจากนั้นก็ได้รับความช่วยเหลือจากการพลิกกลับการผ่อนคลายของ Fed ซึ่งตรงกันข้ามกับที่เราเห็นอยู่ตอนนี้
อย่างไรก็ตาม สถานการณ์สามารถแก้ไขได้ในเวลานี้ หากเราเห็นการพลิกกลับของการเติบโตที่น่าประทับใจในอีกไม่กี่วันข้างหน้า สิ่งนี้จะช่วยฟื้นคืนความเชื่อมั่นในแนวโน้มขาขึ้นสำหรับปีใหม่ แม้ว่า Fed จะมีแนวโน้มลดลงและโมเมนตัมการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ลดลงก็ตาม
ทีมนักวิเคราะห์ FxPro
คำแนะนำการอ่านบทความนี้ : บางบทความในเว็บไซต์ ใช้ระบบแปลภาษาอัตโนมัติ คำศัพท์เฉพาะบางคำอาจจะทำให้ไม่เข้าใจ สามารถเปลี่ยนภาษาเว็บไซต์เป็นภาษาอังกฤษ หรือปรับเปลี่ยนภาษาในการใช้งานเว็บไซต์ได้ตามที่ถนัด บทความของเรารองรับการใช้งานได้หลากหลายภาษา หากใช้ระบบแปลภาษาที่เว็บไซต์ยังไม่เข้าใจ สามารถศึกษาเพิ่มเติมโดยคลิกลิ้งค์ที่มาของบทความนี้ตามลิ้งค์ที่อยู่ด้านล่างนี้
Source link