ดัชนีดาวโจนส์พุ่งกว่า 100 จุด ท่ามกลางการซื้อขายที่ผันผวน หลังเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตร
เมื่อเวลา 22:04 น. ตามเวลาประเทศไทย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์อยู่ที่ 37,563.87 จุด บวก 123.53 จุด หรือ 0.33%
ดัชนีดาวโจนส์เพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อยในช่วงแรก ได้รับผลกระทบจากจำนวนการจ้างงานที่สูงเกินคาด นี่จะเป็นปัจจัยที่ทำให้ธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) คงอัตราดอกเบี้ยไว้ในระดับสูงนานกว่าคาด
นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 10 ปี ดีดตัวขึ้นเหนือ 4% อย่างต่อเนื่องภายหลังการเปิดเผยตัวเลขการจ้างงาน
กระทรวงแรงงานสหรัฐฯ เผยการจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้น 216,000 ตำแหน่งในเดือนธันวาคม ซึ่งสูงกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ว่าจะจ้างงาน 170,000 ตำแหน่ง และเพิ่มขึ้นจาก 173,000 ตำแหน่งในเดือนพฤศจิกายน
อัตราการว่างงานทรงตัวที่ 3.7% ต่ำกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ 3.8%
ในขณะเดียวกัน ค่าจ้างเฉลี่ยต่อชั่วโมงของคนงานเพิ่มขึ้น 4.1% เมื่อเทียบเป็นรายปีในเดือนธันวาคม สูงกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ 3.9%
เมื่อเทียบกับรายเดือน ค่าจ้างเฉลี่ยต่อชั่วโมงสำหรับคนงานเพิ่มขึ้น 0.4% ซึ่งสูงกว่าความคาดหวังของนักวิเคราะห์ที่ 0.3%
ค่าจ้างรายชั่วโมงเป็นข้อมูลสำคัญสำหรับเฟดในการมองหาสัญญาณเงินเฟ้อ
จำนวนการจ้างงานนอกภาคเกษตรสูงเกินคาดในปัจจุบัน สอดคล้องกับตัวเลขการจ้างงานภาคเอกชนที่สูงกว่าคาด และจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานต่ำกว่าคาด สิ่งนี้บ่งบอกถึงตลาดแรงงานที่แข็งแกร่ง
นอกจากนี้นักลงทุนยังชั่งน้ำหนักการคาดการณ์ว่าเฟดจะเริ่มลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนมีนาคม 2567 หลังจากที่สหรัฐฯ เผยตัวเลขการจ้างงานที่สูงกว่าคาดในวันนี้
เครื่องมือ FedWatch ล่าสุดของ CME Group ระบุว่านักลงทุนให้น้ำหนักเพียง 53.8% แก่ Fed ในการปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.25% เหลือ 5.00-5.25% ในการประชุมวันที่ 19-20 มีนาคม 2024 หลังจากสัปดาห์ที่แล้ว ให้น้ำหนักมากถึง 72.8%
คำแนะนำการอ่านบทความนี้ : บางบทความในเว็บไซต์ ใช้ระบบแปลภาษาอัตโนมัติ คำศัพท์เฉพาะบางคำอาจจะทำให้ไม่เข้าใจ สามารถเปลี่ยนภาษาเว็บไซต์เป็นภาษาอังกฤษ หรือปรับเปลี่ยนภาษาในการใช้งานเว็บไซต์ได้ตามที่ถนัด บทความของเรารองรับการใช้งานได้หลากหลายภาษา หากใช้ระบบแปลภาษาที่เว็บไซต์ยังไม่เข้าใจ สามารถศึกษาเพิ่มเติมโดยคลิกลิ้งค์ที่มาของบทความนี้ตามลิ้งค์ที่อยู่ด้านล่างนี้
Source link