ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐฯ กำลังเดินทางไปโปแลนด์เพื่อเยือนโปแลนด์เป็นเวลา 2 วัน เพื่อฉลองครบรอบ 1 ปีของการรุกรานยูเครนของรัสเซีย โดยจะกลับมายังภูมิภาคนี้ในขณะที่สงครามเข้าสู่ช่วงใหม่ที่ผันผวนโดยไม่มีเส้นทางสู่สันติภาพที่ชัดเจน
ไบเดนจะเดินทางถึงกรุงวอร์ซอในวันอังคาร ซึ่งเขาจะได้พบกับประธานาธิบดีอันเดรเซจ ดูดาแห่งโปแลนด์ ทำเนียบขาวระบุในแถลงการณ์เมื่อวันอาทิตย์
“ประธานาธิบดีจะกล่าวสุนทรพจน์ก่อนวันครบรอบหนึ่งปีของการรุกรานยูเครนอย่างโหดร้ายและปราศจากการยั่วยุของรัสเซีย โดยกล่าวถึงวิธีที่สหรัฐฯ ปลุกระดมชาวโลกให้สนับสนุนชาวยูเครนในขณะที่พวกเขาปกป้องเสรีภาพและประชาธิปไตยของพวกเขา และเราจะดำเนินการต่อไปอย่างไร ยืนหยัดเคียงข้างประชาชนยูเครนตราบเท่าที่ยังพอมี” ถ้อยแถลงระบุ
หนึ่งปีที่แล้ว ไบเดนเตือนอย่างเร่งด่วนต่อโลกที่บางครั้งยังสงสัยว่ากองทหารรัสเซียที่กองหนุนจำนวนมากตามแนวชายแดนของยูเครนคือต้นตอของสงคราม ในเวลานั้น แม้แต่บางคนในรัฐบาลของเขาเองก็ตั้งคำถามถึงความสามารถของชาวยูเครนในการต้านทานการรุกราน โดยทำนายว่าเมืองหลวงเคียฟจะล่มสลาย
นักสู้ยูเครนกลับยึดเมืองหลวงและยังคงต่อต้านความพยายามของรัสเซียในการควบคุมดินแดน โดยได้รับความช่วยเหลือจากอาวุธยุทโธปกรณ์และยุทโธปกรณ์ของชาติตะวันตกจำนวนมหาศาล สงครามกลายเป็นความขัดแย้งที่รุนแรงซึ่งเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ กล่าวว่าอาจกินเวลาหลายเดือนหรือหลายปี
สิ่งนี้ได้เข้ามากำหนดนโยบายต่างประเทศของ Biden ผลกระทบที่สะท้อนกลับในเศรษฐกิจโลก และนำไปสู่เอกภาพที่เพิ่งค้นพบระหว่างสหรัฐฯ และพันธมิตรในยุโรป
ผู้ช่วยของ Biden วางแผนมาหลายสัปดาห์ว่าพวกเขาจะทำเครื่องหมายวันครบรอบการรุกรานอย่างไร รวมถึงที่อยู่ที่สำคัญ พวกเขาหวังว่าจะเน้นย้ำถึงความยืดหยุ่นของชาวยูเครน ในขณะเดียวกันก็เน้นย้ำถึงความสำคัญของความสามัคคีในเดือนที่ไม่แน่นอนข้างหน้า
ประธานาธิบดียูเครน โวโลดีมีร์ เซเลนสกี กำลังเตรียมพร้อมสำหรับการรุกรานของรัสเซียในช่วงฤดูใบไม้ผลิ โดยเรียกร้องให้รัฐบาลตะวันตกให้ความช่วยเหลือเพิ่มเติมและจัดหาอาวุธเพื่อช่วยสนับสนุนการสู้รบ
คำแนะนำการอ่านบทความนี้ : บางบทความในเว็บไซต์ ใช้ระบบแปลภาษาอัตโนมัติ คำศัพท์เฉพาะบางคำอาจจะทำให้ไม่เข้าใจ สามารถเปลี่ยนภาษาเว็บไซต์เป็นภาษาอังกฤษ หรือปรับเปลี่ยนภาษาในการใช้งานเว็บไซต์ได้ตามที่ถนัด บทความของเรารองรับการใช้งานได้หลากหลายภาษา หากใช้ระบบแปลภาษาที่เว็บไซต์ยังไม่เข้าใจ สามารถศึกษาเพิ่มเติมโดยคลิกลิ้งค์ที่มาของบทความนี้ตามลิ้งค์ที่อยู่ด้านล่างนี้
ที่มาบทความนี้